Archive

Perishable Beauty อจีรัง คือโอกาส

Description

วันที่จัดแสดง : 28 พฤศจิกายน 2551 – 22 กุมภาพันธ์ 2552 สถานที่ : ห้องนิทรรศการ 2 ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ชั้น 6 ดิ เอ็มโพเรียม ช็อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ Date : 28 November 2008 - 22 February 2009 Venue : Gallery 2, TCDC, The Emporium, 6th Floor

Subject

Perishable Beauty / Beauty / Annica / Environment / death / freshness / creativities

Details

Released 28 November 2008
File Format text/html
Print

Perishable Beauty อจีรัง คือโอกาส

วันที่จัดแสดง: 28 พฤศจิกายน 2551 – 22 กุมภาพันธ์ 2552

สถานที่: ห้องนิทรรศการ 2 ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ชั้น 6 ดิ เอ็มโพเรียม ช็อปปิ้ง คอมเพล็กซ์

Date: 28 November 2008 - 22 February 2009

Venue: Gallery 2, TCDC, The Emporium, 6th Floor

อจีรัง คือ โอกาส

เสนอช่องทางทำมาหากินจากความเสื่อมสลายรอบตัวด้วยแนวคิดพื้นฐานที่ว่าไม่มีใครสามารถหลุดพ้นจากความอจีรังได้ ดังนั้นแทนที่เราจะปล่อยให้ชีวิตและสรรพสิ่งรอบตัวค่อยๆ เสื่อมสลายไปตามธรรมชาติพร้อมความสูญเปล่า เหตุใดจึงไม่มองสัจธรรมให้เป็นโอกาสและใช้ความคิดสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในการสร้างธุรกิจที่หากินได้ไม่มีวันสิ้นสุด เพื่อช่วยให้เราสามารถหลุดพ้นจากปัญหาสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเวลานี้

จากตัวเลขทางสถิติจากธุรกิจหลายแขนงที่เกี่ยวเนื่องกับความพยายามในการฉุดรั้งความสวยความงามของมนุษย์ให้อยู่คงทนและยาวนานที่สุด อาทิ การผลิตครีมยกกระชับ การผ่าตัดศัลยกรรม การฉีดโบท็อกซ์ ธุรกิจฟิตเนส หรือแม้กระทั่งการคิดค้นวิวัฒนาการขั้นสูงที่มีราคาแพงระยับอย่างสเต็มเซลล์ ที่หลายคนยอมทุ่มทุนจ่ายราคาแบบไม่อั้นเพียงเพื่อต้องการรั้งความงามให้อยู่กับตัวเองตราบนานเท่านานนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นโอกาสทางธุรกิจจากความไม่เที่ยงที่สามารถกอบโกยรายได้เข้าประเทศได้ตลอดปีตลอดชาติ เม็ดเงินจำนวนไม่น้อยกว่า 11 ล้านล้านบาทต่อปี คือจำนวนเงินที่มนุษย์ทั่วโลกใช้จ่ายเพื่อบำรุงบำเรอความงามและดิ้นรนให้หลุดพ้นจากความ “อจีรัง” ซึ่งคำนวณแล้วเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าจีพีดีรวมของทั้งประเทศไทย

ไม่เพียงแต่การรักษาความงามของมนุษย์เท่านั้นที่ต้องใช้เงินต้นทุนเป็นปัจจัยสำคัญ สิ่งแวดล้อมรอบตัวก็จำเป็นต้องใช้งบประมาณประกอบกับมันสมองอันชาญฉลาดของมนุษย์ ในการดูแลจัดการเพื่ออนุรักษ์ทัศนียภาพอันงดงามให้คงอยู่ และเพื่อให้เป็นสถานที่แห่งความทรงจำตลอดไปของนักท่องเที่ยวทั่วโลก การลงทุนด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมจึงไม่เพียงแต่ให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นความงดงามที่น่าประทับใจแก่ผู้มาเยือนเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งที่ติดตามมาพร้อมกัน ก็คือรายได้จำนวนมหาศาลของเจ้าของสถานที่ ผู้รู้จักแปรเปลี่ยนความงดงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ไว้ให้กลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

นอกจากนี้ การจัดการกับเงื่อนไขของเวลาที่ถูกกำหนดโดยธรรมชาติก็ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางทำกินที่ใครๆ ก็สามารถฉกฉวยโอกาสจากเวลาอันจำกัดเหล่านั้น เพื่อนำมาสร้างให้เป็นโอกาสทางธุรกิจของตนเองได้ เปรียบได้กับเจ้าของขุมทรัพย์อันล้ำค่าที่สามารถกอบโกยเงินทองได้มากมายอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ตราบนานเท่าที่ธรรมชาติยังคงเปิดโอกาสให้มนุษย์ได้หากินกับความอจีรัง

เม็ดเงินจำนวนมหาศาลจากธุรกิจแห่งความ “เสื่อมสลาย” และมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากความ “โรยรา” ที่เฟื่องฟูสวนกับกระแสวิกฤตเศรษฐกิจของโลกในปัจจุบันก็เปรียบเสมือน “มะนาวหยดสุดท้าย” ที่มนุษย์ต้องรีบตักตวงและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยเร็วที่สุด เพราะหากปล่อยให้โอกาสเหล่านี้ผ่านเลยไปแล้ว มะนาวที่ถูกคั้นจนไม่เหลือแม้กระทั่งหยดน้ำหยดสุดท้ายก็คงมีจุดจบ ณ กองขยะแห่งใดแห่งหนึ่งตามสัจธรรมของความอจีรังอย่างแท้จริง

Anti-aging creams, cosmetic surgery, Botox injection, fitness centers, or even state-of-the-art stem cell technology – all are businesses that thrive on our struggle to conquer impermanence. Many of us are willing to spend without limit just to stay eternally young and attractive, which makes impermanence a business motif that creates unending propulsion to our economy with sizable, year-round turnover. Statistics reveal that at least 11 trillion baht is spent globally each year on beauty nourishment and efforts to overcome the flux of our bodily appearance – a value that matches Thailand’s gross domestic product.

Money is a needed resource not only for the fight against natural decay of human body. In addition to our ingenuity and management skills, budget is also a vital part in the maintenance and preservation of the surroundings in order to keep our country beautiful and memorable to visitors from around the world. The benefits of investment in environmental conservation are, therefore, not restricted to the good impression created on visitors, but also revenues to be generated to property owners who have the finesse to turn beauty of creations within and surrounding their premises into lucrative business.

In addition, the nature of time is also a business opportunity anyone can tap into, turning needs that surround the restriction of time into everlasting wealth reserves as long as nature allows us to make our livelihood on impermanence.

Even amid the large-looming global recession, the huge turnover of industries that center around “rot” and “decay” and the added values created on “deterioration” keep growing. They should, however, be regarded as the “last drop of lemon juice”. Otherwise, this invigorating last drop will definitely end up wasted and perished when the nearly-fully squeezed lemon skin goes to a dump ground somewhere out there, as are worldly things that deteriorate by the natural rule of impermanency.

หากทุกสิ่งล้วนอจีรัง โอกาสของชีวิตจะอยู่ที่ใด

If all things perish, what value is left in life?

นิทรรศการ “อจีรัง คือ โอกาส” (Perishable Beauty) แบ่งออกเป็น 8 ส่วน ดังนี้

Perishable Beauty Exhibition is divided into 8 sections:

1. อนิจจัง (Anicca) – แสดงให้ผู้เข้าชมเข้าใจถึงสัจธรรมของความเสื่อมสลายและการดับสูญที่ว่า หากจักรวาลอันยิ่งใหญ่ยังสามารถแตกดับได้ ร่างกายของมนุษย์ที่มีอายุขัยเพียงพริบตาของจักรวาลก็คงมีสภาพไม่แตกต่างกัน โดยนำเสนอผ่านเรื่องราวของแสงสว่างจากดวงดาว อันเป็นแสงสว่างในอดีตที่เดินทางมาจากดวงดาวที่ระเบิดและแตกดับไปแล้วหลายพันล้านปีแสง รวมถึง “หลุมดำ” ที่แม้จะเป็นจุดจบของเอกภพในอดีต แต่ในขณะเดียวกันการระเบิดของหลุมดำก็ก่อกำเนิดระบบสุริยจักรวาลในยุคปัจจุบันเช่นกัน

1. Anicca – This section illustrates the nature of decay and ending of things, which apply to all without exception, even the universe. The lifetime of human beings is a blink of an eye, compared to the life span of the universe, and thus we are indefinitely perishable. Anicca is presented through the story of starlight – the light of the past which travels from stars that have perished billions of light years ago. Also highlighted is the meaning of black holes – the beginning and end of all cosmic life

2. ความตาย (Death) – แสดงให้ผู้เข้าชมรู้สึกหวาดหวั่นกับความตายของมนุษย์ พร้อมทั้งชี้ให้เห็นว่ามนุษย์พยายามหาวิธีต่างๆเพื่อสร้างความสุขและความสุนทรีให้มากที่สุดในขณะที่ตนเองยังมีชีวิตอยู่ เช่น การเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุนทรียรสในชีวิต โดยสื่อผ่านอาหารนานาชนิด ที่แสดงให้เห็นว่าแม้แต่อาหารที่มนุษย์รับประทานก็ต้องเสื่อมสลายและเน่าเปื่อยไปตามกาลเวลา

2. Death – The audience will be daunted over the death of human beings. They will be shown in form of how we human folk struggle to fill our life with happiness and pleasure while we are still alive, such as by indulging ourselves in dining. Displayed through a wide array of food, Death displays rot and decay evident even in the food that we consume.

3. ความกลัว (Fear) – แสดงให้เห็นว่ามนุษย์ทุกคนในทุกยุคทุกสมัยล้วนกลัวความตาย และพยายามดิ้นรนให้พ้นจากความเสื่อมสลายอยู่ตลอดเวลา โดยเสนอผ่านประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการการหลีกหนีจากความตายของมนุษย์ในแต่ละยุคสมัย อาทิ การทำมัมมี่ การโคลนนิ่ง หรือการทำอัญมณีจากอัฐิ เป็นต้น

3. Fear – People of all eras are afraid of death and take every effort to stay beyond the reach of deterioration. The history and evolution of the struggle to avoid death are told in generations, ranging from mummification, cloning, to the making of bone-ash ornaments, etc.

4. ความงาม (Beauty) – แสดงให้เห็นถึงความพอใจของมนุษย์ที่ต้องการเห็นตนเองดูดีอยู่เสมอ และต้องการคงความงามนั้นไว้ตราบนานเท่านาน จนความพอใจและความสุขจากความเชื่อเหล่านี้ ได้กลายเป็นช่องทางและโอกาสที่ก่อให้เกิดเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงามขึ้นมากมายทั่วโลก อาทิ เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว สถานบริการฟิตเนส การทำศัลยกรรม ไปจนถึงประเด็นสังคมที่สื่อมวลชนคือผู้มีอิทธิพลในการสะท้อนและกำหนดรูปแบบความงามตามที่คนในสังคมต้องการ พร้อมปิดท้ายด้วยการตั้งคำถามถึง “ความงามที่แท้จริง” ว่าแท้จริงแล้วความงามไม่เคยคงที่ แต่เปลี่ยนแปลงไปตามบรรทัดฐานและสภาพสังคมตามแต่ละยุคสมัยจะกำหนด

4. Beauty – This part of the exhibition reflects people’s delight of keeping themselves in pleasing appearance for as long as possible. The values have opened up the door to global opportunities in business, such as in cosmetics, skincare products, fitness centers, cosmetic surgery, as well as numerous efforts through the media to define beauty in ways that serve certain businesses. The section ends by raising a question of what really is “genuine beauty” – the quality that has never found a permanent description. In fact, the ever-changing definition of beauty is dependent on social conditions and criteria that also keep changing in different eras.

ใครคือฆาตกรความงาม

Did you ever meet the beauty murderer?

5. ฤดูกาล (Season) – แสดงให้เห็นว่าแค่เพียงระยะเวลาสั้น ๆ ในช่วงฤดูกาลหนึ่ง หากมนุษย์รู้จักฉกฉวยและแสวงหาโอกาสจากธรรมชาติและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็จะสามารถสร้างให้เกิดเป็นคุณค่าทางเศรษฐกิจได้ เฉกเช่นช่วงเวลาของฤดูกาลดอกซากุระบานในประเทศญี่ปุ่นที่รัฐบาลมองเห็นโอกาสทางธุรกิจและกำหนดให้ช่วงเวลานี้เป็นวาระแห่งชาติ จนกลายเป็นฤดูกาลที่สามารถเรียกเงินจำนวนมหาศาลได้จากนักท่องเที่ยวทั่วโลก

5. Season – This section shows how the short period of each season creates economic value to natural creations, only if we perceive this and take it as a business opportunity. For instance, the Japanese government has turned its ‘sakura’ cherry blossom period into a tourist season that generates an enormous inflow of foreign currency into the country.

6. สิ่งแวดล้อม (Environment) – แสดงให้เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างตามธรรมชาติหรือทัศนียภาพที่ดูสวยงามเพลินตานั้น ล้วนเกิดจากการลงทุนและระบบการจัดการที่ดี ประเทศใดสามารถจัดระเบียบของสิ่งแวดล้อมเพื่อเก็บความทรงจำที่สวยงามเหล่านี้ไว้ได้ ก็จะสามารถสร้างรายได้เป็นเงินจำนวนมากเข้าประเทศ เช่น อำเภออัมพวาในประเทศไทย เมืองลี่เจียงในประเทศจีน และเมืองเวนิสในประเทศอิตาลี

6. Environment – Showing that scenic beauty of nature and surroundings is a result of visionary investment and sensible administration, Environment suggests that environmentally sound management of picturesque destinations can create lasting impression on their visitors and generate sizable income to the communities, as seen in the Amphawa District of Thailand, Lijiang old town in China, and Venice City in Italy.

7. กระบวนการจัดการความเสื่อม (Freshness Management) – แสดงให้เห็นถึงวิธีที่มนุษย์จัดการกับความเสื่อมสลายของธรรมชาติ โดยนำเสนอผ่านกระบวนการรักษาความสดของดอกไม้ในประเทศเนเธอร์แลนด์ที่สามารถส่งดอกไม้ข้ามทวีปไปถึงมือผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที รวมถึงวิธีการอันชาญฉลาดในการนำเข้าดอกไม้จากทั่วโลก จนได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางและผู้นำด้านการส่งออกดอกไม้ระดับโลก เพื่อชี้ช่องทางการทำธุรกิจและกระบวนการจัดการกับความเสื่อมสลายนี้ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เช่น การปรับปรุงระบบการขนส่งดอกไม้ให้เป็นศูนย์กลางการส่งออก “ใบไม้เขตร้อนชื้น” ในระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมถึงการคิดค้นเทคนิคการส่งออกดอกไม้สู่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกโดยการสร้างมูลค่าเพิ่มจากความคิดสร้างสรรค์

7. Freshness Management – The section gives an idea of how we can deal with natural decay of things and work out a process that supports relevant business. Freshness Management is presented through the flower industry of the Dutch, who manage to send flowers from their farms to overseas customers with optimized time-efficiency. It also explores the business flair of the Dutch for importing flowers from around the globe to make the Netherlands the international center and world’s leading market for flowers. This part of exhibition will hopefully inspire development of similar freshness management procedures to make Thailand a regional center and the world’s leading exporter of tropical flowers and leaves, these on top of added value from the touch of creativity given to our exported flowers.

8. มะนาวหยดสุดท้าย (Last Drop) – เป็นตัวแทนของโอกาสทางธุรกิจที่คนไทยต้องนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุดและโดยเร็วที่สุด ส่วนนี้จะสรุปความคิดรวบยอดให้ผู้เข้าชมนิทรรศการได้นำความรู้และสัจธรรมจากความอจีรังที่พบเห็นตลอดทั้งนิทรรศการมาขบคิดและแตกหน่อให้เกิดเป็นไอเดียใหม่ๆที่น่าสนใจในการประกอบธุรกิจเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของ นิทรรศการ “อจีรัง คือ โอกาส” (Perishable Beauty)

8. Last Drop – Symbolizing the business opportunity that Thai people should maximize benefits upon, and in the soonest manner, Last Drop gives a conceptual idea that urges the audience to digest the knowledge and insight obtained from this exhibition, in order to spawn new and exciting business ideas to fulfill the objectives of the Perishable Beauty Exhibition.


Related To This Item

สื่ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง


You May Also Like

แนะนำสื่ออื่นๆ ที่น่าสนใจ


Your Recent Views

สื่ออื่นๆ ที่คุณเพิ่งดู